เหยื่อวัยเยาว์จากเหตุปะทะ

1989 Tiananmen Square Protests

อภิสิทธิ์ตอแหลจะๆ ชัดเจน ไร้ยางอาย

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บอยคอตมาม่า ภารกิจทางประวัติศาสตร์ของคนเสื้อแดง

บอยคอตมาม่า ภารกิจทางประวัติศาสตร์ของคนเสื้อแดง


การบอยคอต ทำให้ "กองทัพไทย" ไม่มีเวทีที่จะเข้ามาแทรก อำนาจทหารกลายเป็นศูนย์ ในเวทีนี้ อำนาจรัฐหมดความหมายในการกดดันผู้บริโภค


โดย ลูกชาวนาไทย
ที่มาและภาพประกอบ เวบไทยฟรีนิวส์



ดู เหมือนว่าการต่อสู้ทางการเมืองของคนเสื้อแดง ด้วยวิธีการชุมนุมใหญ่ได้ถึงจุดสูงสุดในช่วงเดือน 14 มีนาคม 2553- 19 พฤษภาคม 2553 และจบลงด้วยการถูกล้อมปราบและการสั่งหารหมู่

ประชาชน ไปเกือบร้อยคน บาดเจ็บไปกว่า 2,000 คน กลายเป็นบาดแผลที่สำคัญของสังคมที่ยากจะเยียวยาได้ และคงเป็นเงื่อนไขทางการเมืองในอนาคต ที่คงทำให้ใครต่อใครได้เข้าคุกหลังหมดอำนาจแล้ว

จากผลดังกล่าว จะเห็นได้ว่า การชุมนุมใหญ่นั้น ไม่ได้ให้ผลด้านชัยชนะที่ "ชี้ขาด" ในสงครามความขัดแย้งทางการเมือง

ที่ จริงกลยุทธ์การชุมนุมใหญ่ หากคิดตามตำราพิชัยสงคราม 36 กลยุทธ์ของจีนแล้ว ต้องใช้ในฐานะของ "กลลูกโซ่" คือ ต้องมีเครื่องมืออิ่นรองรับด้วย เช่น กำลังทหารที่ซุ่มซ่อนรอเงื่อนไขเข้าทำการบดขยี้ เมื่อฝ่ายตรงข้ามขาดความชอบธรรมไปแล้ว

หากไม่มีเครื่องมืออย่างอื่นคอยช่วยหนุน การใช้การชุมนุมใหญ่ก็ไม่อาจพิชิตศึกได้ด้วยตัวของมันเอง

แม้ จะถูกล้อมปราบอย่างรุนแรง ซึ่งหากเป็นสมัยก่อนแล้ว คนเสื้อแดงคงพ่ายแพ้ไปอย่างชนิดที่เรียกว่าไม่ได้ผูดได้เกิดอีกต่อไป และคงละลายหายไปและฝ่ายตรงข้ามคงได้ชัยชนะอย่างสมบูรณ์

แต่เมื่อดู ผลหลังการล้อมปราบในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 จนบัดนี้เป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้ว ขบวนการเสื้อแดงยังไม่ได้ละลายหายไปแต่อย่างใด

มีสภาพ เหมือนกับก่อนการชุมนุมใหญ่ คือ กำลังสะสมกำลัง เพื่อรอที่จะเข้ากระทำอีกครั้งหนึ่ง หากได้ยุทธศาสตร์ หรือกลยุทธ์ที่เหมาะสมแล้ว สงครามยังไม่จบ และยังไม่มีทีท่าจะจบ ฝ่ายเสื้อแดงไม่ได้อ่อนกำลังลงแต่อย่างใด

การถูกล้อมปราบไม่ได้ทำให้เสื้อแดง พ่ายแพ้สงครามแต่อย่างใด เพียงแต่อาจพลาดพลั้งในด้านการรบเท่านั้น

ตอนนี้อยู่ที่ว่าจะทำสงครามต่อไปได้อย่างไร ภายใต้ยุทธศาสตร์อะไร ทิศทางการต่อสู้ความใช้ยุทธวิธีอย่างไร

ผม เชื่อว่าการใช้การชุมนุมใหญ่คงไม่ได้ผลอีกต่อไป เมื่อเดือนสองเดือนก่อน คนเสื้อแดงอาจยังสับสน ว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป กลยุทธ์แบบ "วันอาทิตย์สีแดง" ของ บก.ลายจุดจึงเกิดขึ้น เพื่อดังส่วนต่างๆ ของคนเสื้อแดงให้กลับมารวมตัวกันอีก

แต่ กลยุทธ์ "วันอาทิตย์สีแดง" มีผลเพียงทำให้ คนเสื้อแดงที่กระจัดกระจายไปหลังการถูกล้อมปราบ กลับมารวมพลกันอีกครั้งเท่านั้น

โดยตัวของมันเองแล้ว "วันอาทิตย์สีแดง" เป็นกลยุทธ์การตั้งรับเท่านั้น ไม่ใช่กลยุทธ์ในการรุกแต่อย่างใด

ใน สงคราม การใช้การตั้งรับไม่อาจนำไปสู่การเผด็จศึกได้ เป็นเพียงแต่สะสมกำลังยามเรายังไม่เข็มแข็งเท่านั้น หากจะชนะสงคราม ต้องใช้กลยุทธ์การรุกเท่านั้น

ตอนนี้ กลยุทธ์ในการรุก เริ่มปรากฎให้เห็นแล้ว คือ "การใช้ยุทธวิธีบอยคอตสินค้าของกลุ่มทุนที่สนับสนุนอำมาตย์" มีการรณรงค์ให้ "เลิกกินมาม่า เพื่อเป็นผลในการกดดันฝ่ายตรงข้าม

ตอน นี้การบอยคอตมาม่า เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าแกนนำเสื้อแดงระดับประเทศจะยังไม่ขานรับ แต่เชื่อว่า เมื่อยังไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้

การบอยคอตจะเริ่มได้รับการยอมรับจากมวลชนเสื้อแดงมากขึ้นเรื่อยๆ

การ บอยคอต โดยตัวของมันเองแล้ว มีพลังและเป็น อาวุธที่เด็ดขาด แบบระเบิดนิวเคลียร์ เป็นอาวุธที่รุนแรงที่สุดในโลกทุนนิยม "หน่วยธุรกิจใด" ที่โดยบอยคอตอย่างจริงจัง จากผู้บริโภคที่พร้อมใจกัน จะอยู่ในตลาดไม่ได้ และในที่สุดหากไม่ยินยอมตามผู้บริโภค ก็จะต้อง "ออกจากตลาดไป"

ไม่มีแรงกดดันใดของประชาชน หรือ ผู้บริโภค จะร้ายแรงเท่าการบอยคอตสินค้า และไม่มีอำนาจใดจะต้านมันได้ด้วย แม้ฝ่ายที่ถูกบอยคอตจะมี "ทุนขนาดมหึมา" แต่หากผู้บริโภค" บอยคอต"อย่างต่อเนื่องและจริงจัง กลุ่มทุนนั้นในที่สุดแล้ว ก็ต้องออกจากธุรกิจไป เพราะคงไม่อาจอยู่ในตลาดได้

หากผลิตแล้วไม่มีใครซื้อ ต่อให้รวยแค่ไหน คงไม่มีใครผลิตสินค้าเอามากองทิ้งได้นานนัก

ผม คิดว่า การบอยคอตสินค้าของกลุ่มทุนที่สนับสนุนอำมาตย์ จะเป็น "ภารกิจทางประวัติศาตร์" ที่คนเสื้อแดงจะต้องช่วยเหลือกันอย่างจริงจัง และทำให้มีพลังอย่างพร้อมเพียงกัน เหมือนที่เราออกไปร่วมกันในการชุมนุม "วันอาทิตย์สีแดง"

การชุมนุมที่ราชประสงค์กว่า 2 เดือน พวกเรายังทำกันได้ แค่เลิกใช้สินค้าของกลุ่มทุนที่เป็นศัตรูกับประชาชน ทำไมเราจะทำไม่ได้ ไม่ได้ลำบากมากเท่าใดนัก

ผมคิดว่าระบบ การสื่อสาร เครือข่ายของคนเสื้อแดงนั้นสมบูรณ์และกระจายได้อย่างรวดเร็ว หากเราร่วมแรงร่วมใจกันได้ ในที่สุดแล้วชัยชนะจะตกเป็นของพวกเรา

มาร่วมกันใช้พลังที่แท้จริงของประชาชน หรือพลังของผู้บริโภคกันเถอะครับ ประชาชนตัวเล็กๆ หากรวมตัวกันแล้ว จะกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่

การบอยคอต ทำให้ "กองทัพไทย" ไม่มีเวทีที่จะเข้ามาแทรก อำนาจทหารกลายเป็นศูนย์ ในเวทีนี้ อำนาจรัฐหมดความหมายในการกดดันผู้บริโภค

ในโลกทุนนิยม หากอำมาตย์หมดทุน ก็เท่ากับหมดพลังไปโดยปริยาย

เหล็กกำลังร้อน ต้องช่วยกันตี

*********
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:มั่นใจเกิน20ล้านต้านสินค้าเผด็จการบอยคอตมาม่า ยอดวูบถึงขั้นวิจัยงมหาเหตุทำไมส่วนแบ่งตลาดร่วง

คุณปลื้มเย้ยหยันเสรีภาพสื่อไทยกลางรายการทีวี กรณีปิดปากงดออกข่าววิกิลีกส์แฉชนชั้นนำไทย



โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
17 ธันวาคม 2553

ใน รายการDaily DoseทางVoice TV เมื่อค่ำวานนี้ เมื่อม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล "คุณปลื้ม" ผู้ดำเนินรายการ ได้เล่าข่าวถึงเรื่องWikileaks แฉเอกสารข้อมูลที่ทูตสหรัฐฯได้ข้อมูลจากบุคคลระดับสูงในไทย ไม่ว่าจะเป็นพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา นายอานันท์ ปันยารชุน พล.อ.สนธิ บุณยะรัตกลิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่กล่าวหา หรือพาดพิงถึงบุคคลสำคัญระดับสูงเข้ามาแทรกแซงการเมือง

คุณปลื้มแจ้ง ว่า เขาก็ต้องเซ็นเซอร์ตัวเองเหมือนกับสื่อทั่วไปต้องทำ นั่นคือการเซ็นเซอร์ตัวเองให้เงียบเสียง ว่าแล้วคุณปลื้มก็นำปลาสเตอร์ขึ้นมาปิดปาก (ดูคลิปข่าว)แล้วปล่อยให้ภาพบุคคลชนชั้นนำของไทยหมุนเวียนอยู่หน้าจอทีวี




ล่า สุดศาลสูงของลอนดอน อนุญาตให้ประกันตัว จูเลียน แอสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์แล้ว ปฏิเสธคำอุทธรณ์คัดค้านการปล่อยตัวเขาภายใต้เงื่อนไขอันเข้มงวด

ก่อน หน้านี้คุณปลื้มได้เรียกร้องในรายการ สนับสนุนให้เวบไซต์ข่าวทางเลือกอย่างไทยอีนิวส์ หรือประชาไท ร่วมมือกับวิกิลีกส์เพื่อขุดคุ้ยความจริงด้านต่างๆนำเสนอสู่สังคมไทย

อย่าง ไรก็ตามจากการสอบถามบรรณาธิการของไทยอีนิวส์ ได้รับคำตอบว่า ตอนนี้ยังแสดงความเห็นอะไรไม่ได้ถนัด เพราะเขาก็ถูกพลาสเตอร์อุดปากอยู่เหมือนกัน

สื่อกระแสหลักแทบทั้งหมด เลือกที่จะเซ็นเซอร์ตัวเองในข่าวที่วิกิลีกส์เปิดเผยออกมาล่าสุดนี้ ราวกับว่าไม่ได้มีเรื่องสำคัญอึกกระทึกคึกโครมไปทั่วโลกเกิดขึ้น

********
ข่าวเกี่ยวเนื่อง:ข่าวคึกโครมระดับโลกที่เงียบเชียบในสื่อไทย วิกิลีกส์ตีแผ่อีกเปรม-อานันท์ปูดข้อมูลลับระดับสูงสู่ทูตสหรัฐ

วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 16, 2010

ข่าวคึกโครมระดับโลกที่เงียบเชียบในสื่อไทย วิกิลีกส์ตีแผ่อีกเปรม-อานันท์ปูดข้อมูลลับระดับสูงสู่ทูตสหรัฐ


เย้ยหยันเสรีภาพสื่อไทย- "คุณปลื้ม"ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้ดำเนินรายการDAILY DOSE ทางVOICE TV เย้ยหยันเสรีภาพสื่อไทยกลางรายการทีวี กรณีปิดปากงดออกข่าววิกิลีกส์แฉชนชั้นนำไทย ด้วยการนำพลาสเตอร์มาปิดปากเมื่อเล่าข่าวการแฉบุคคลระดับสูงแทรกแซงการเมือง แต่สื่อไทยพากันเซ็นเซอร์ตัวเองด้วยการงดนำเสนอข่าว


สิ่งที่สื่อไทยเสนอได้-ไม่ มีรายงานข่าวอึกกระทึกคึกโครมระดับโลกในสื่อไทยฉบับเช้าวันนี้ มิหนำซ้ำยังนำเสนอข่าวพาดหัวเกี่ยวกับแชมป์มหาเศรษฐีหุ้นชื่อเสี่ยทองมา ซึ่งในแวดวงหุ้นทั้งไทยและเทศรู้ดีว่า แชมป์ตัวจริงเป็นเสี่ยอีกรายที่สำนักข่าวBloombergเคยนำเสนอว่าเป็นมหา เศรษฐีหุ้นอันดับ1ตัวจริงเสียงจริงมาอย่างแน่นเหนียวนานหลายปี เพียงแต่ว่าสื่อไทยนำเสนอข่าวนี้ไม่ได้ และก็ไม่มีใครกล้าพูดด้วย


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
16 ธันวาคม 2553

ประชาไท รายงานข่าวว่า เว็บไซต์การ์เดียนรายงานในเซ็คชั่น 'You ask, we search' ซึ่งเปิดให้ผู้อ่านสอบถามประเด็นที่สงสัยและจะมีการค้นหาคำตอบจากวิกิลีกส์ (wikileaks) เว็บไซต์จอมแฉชื่อดัง โดยมีตอนหนึ่งระบุถึงเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศไทยเมื่อปี 2549 โดยอ้างอิงถึงเอกสารจากสถานทูตสหรัฐฯที่ระบุเอาไว้ว่า นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่าบุคคลระดับสูงของไทยมีความเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารที่เกิดขึ้น รวมทั้งยังเกี่ยวพันกับความวุ่นวายอย่างต่อเนื่องโดยผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งนำไปสู่การล้มรัฐบาลหลายชุดที่มีความเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา

นอกจากนี้การ์เดียนยังเปิดเผย เอกสารเกี่ยวกับการรัฐประหารอีก 2 ฉบับ ซึ่งเป็นการพูดคุยส่วนตัวของนายราล์ฟ บอยซ์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะรัฐประหาร ในวันที่ 20 กันยายน 2549 และการสื่อสารระหว่างนายอีริค จีจอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐคนปัจจุบันกับแหล่งข่าวในพระราชสำนักด้วย

ข่าวนี้ ถือเป็นข่าวอึกกระทึกคึกโครมระดับโลก แต่น่าประหลาดใจที่ไม่พบรายงานในสื่อกระแสหลักอื่นใด นอกจากในสื่อกระแสหลักภาษาอังกฤษคือBangkok Postฉบับออนไลน์เมื่อวานนี้ และข่าวนี้หายไปในเวลาไม่นานนัก วงการเชื่อว่าBangkok Postหลุดเดี่ยว โดยพลั้งเผลอ แต่ก็ลบทัน

นอกจากนั้นเวบไซต์ผู้จัดการASTVก็นำข่าวนี้ ขึ้นรายงานด้วยเช่นกัน โดยอ้างแหล่งข่าวจากAFP และมีรายงานว่าหน้าเวบผู้จัดการหายไปช่วงหนึ่งหลังนำเสนอข่าวนี้ ก่อนจะปรากฎตัวใหม่ โดยข่าวนี้หายไปจากสารบบของเวบแล้ว

ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์เขียนลงในเฟซบุ๊คเขา ด้วยว่า ยังมีโทรเลขล่าสุด ที่ The Guardian เอามาอภิปรายนี้ (ขณะที่ผมเขียนนี้ ตัวบท โทรเลขจริงๆ ยังไม่ได้มีการตีพิมพ์ มีแต่บทวิเคราะห์-รายงาน) เป็นโทรเลขเมื่อเดือนมกราคมปีนี้เอง ทูตสหรัฐได้รายงานการสนทนากับ เปรม, สิทธิ เศวตศิลา และ อานันท์ ปันยารชุน เกี่ยวกับปัญหาการสืบราชสันตติวงศ์


เรื่อง "ตลก" ที่ไม่ตลก เกี่ยวกับเนื้อหาที่ เปรม อานันท์ สิทธิ พูดกับทูตสหรัฐอยู่ นั่นคือ ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป พูดเรื่องแบบนี้ แม้ในที่ "ไพรเวท" ก็ยังเสี่ยง่ต่อการโดนเล่นงานด้วย ม.112 ได้ ผมพูดนี่ ไม่ได้เสนอเลยว่าให้เล่นงาน เปรม อานันท์ สิทธิ ด้วย ม.112 นะครับ ต้องย้ำ ผมไม่เคยยุให้ใช้กฎหมายนี้กับใครเลยทั้งสิ้น แม้แต่...กับกรณีสนธิ ลิ้มทองกุล หรือพวกพันธมิตร พวกจงรักภักดีทั้งหลาย


คุณปลื้มเย้ยหยันเสรีภาพสื่อไทยกลางรายการทีวี กรณีปิดปากงดออกข่าววิกิลีกส์แฉชนชั้นนำไทย



ใน รายการDaily DoseทางVoice TV เมื่อค่ำวันที่ 16 ธันวาคม เมื่อม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล "คุณปลื้ม" ผู้ดำเนินรายการ ได้เล่าข่าวถึงเรื่องWikileaks แฉเอกสารข้อมูลที่ทูตสหรัฐฯได้ข้อมูลจากบุคคลระดับสูงในไทย ไม่ว่าจะเป็นพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา นายอานันท์ ปันยารชุน พล.อ.สนธิ บุณยะรัตกลิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่กล่าวหา หรือพาดพิงถึงบุคคลสำคัญระดับสูงเข้ามาแทรกแซงการเมือง

คุณปลื้ม แจ้งว่า เขาก็ต้องเซ็นเซอร์ตัวเองเหมือนกับสื่อทั่วไปต้องทำ นั่นคือการเซ็นเซอร์ตัวเองให้เงียบเสียง ว่าแล้วคุณปลื้มก็นำปลาสเตอร์ขึ้นมาปิดปาก (ดูคลิปข่าว)แล้วปล่อยให้ภาพบุคคลชนชั้นนำของไทยหมุนเวียนอยู่หน้าจอทีวี

ล่า สุดศาลสูงของลอนดอน อนุญาตให้ประกันตัว จูเลียน แอสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์แล้ว ปฏิเสธคำอุทธรณ์คัดค้านการปล่อยตัวเขาภายใต้เงื่อนไขอันเข้มงวด

ก่อน หน้านี้คุณปลื้มได้เรียกร้องในรายการ สนับสนุนให้เวบไซต์ข่าวทางเลือกอย่างไทยอีนิวส์ หรือประชาไท ร่วมมือกับวิกิลีกส์เพื่อขุดคุ้ยความจริงด้านต่างๆ นำเสนอสู่สังคมไทย

อย่าง ไรก็ตามจากการสอบถามบรรณาธิการของไทยอีนิวส์ ได้รับคำตอบว่า ตอนนี้ยังแสดงความเห็นอะไรไม่ได้ถนัด เพราะเขาก็ถูกพลาสเตอร์อุดปากอยู่เหมือนกัน

สื่อกระแสหลักแทบทั้งหมด เลือกที่จะเซ็นเซอร์ตัวเองในข่าวที่วิกิลีกส์เปิดเผยออกมาล่าสุดนี้ ราวกับว่าไม่ได้มีเรื่องสำคัญอึกกระทึกคึกโครมไปทั่วโลกเกิดขึ้น

********

เรื่องเกี่ยวเนื่อง:

-เราเตือนคุณแล้ว!คำประกาศ'วิกิกง'ก่อนจองเวรรัฐไทยสุดแสบ อยู่ดีๆทำซ่ามาปิดWikileaksก่อนทำไม




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น